ทำไม Bookingต้องตรวจสอบทำเลที่ตั้งของที่พัก?
815 views
ทำไม Bookingต้องตรวจสอบทำเลที่ตั้งของที่พัก?
ทำไม Bookingต้องตรวจสอบทำเลที่ตั้งของที่พัก? เนื่องจากเว็บไซต์ของเรามีที่พักนับล้านแห่งและลูกค้าหลายล้านท่านจากทั่วโลก การที่เราแสดงข้อมูลบน Booking.com ให้ถูกต้อง 100% จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
เราโฆษณาที่พักบนเสิร์ชเอนจินหลายแห่งรวมถึงบนเว็บไซต์แอฟฟิลิเอต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะแสดงข้อมูลที่พักที่ถูกต้องแก่ลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนจองที่พัก เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมตรงตามความคาดหวัง
เป้าหมายหลักของเราคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่พักทุก ๆ แห่งบนเว็บไซต์ของเรานั้นเปิดบริการอยู่จริง ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลออกไปหรือในตัวเมืองที่เป็นจุดหมายยอดนิยม โดยการตรวจสอบที่พักจะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของที่พัก รวมถึงว่าเจ้าของสามารถเดินทางกลับไปยังที่พักได้หรือไม่ ดังนั้นในบางกรณีจึงอาจใช้เวลานานกว่าปกติ
หากเราต้องการความช่วยเหลือในการตรวจสอบที่พักของท่าน ทีมงานของเราจะติดต่อท่านเพื่อพูดคุยเรื่องนี้
ทำไมจึงไม่แสดงในแอคเคาท์
มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เป็นเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่พบบ่อยครั้งนั้นเป็นเพราะการจองดังกล่าวมีประเภทห้องพักหรือราคาซึ่งยังไม่ได้มีการอัปเดตในระบบของ Connectivity Provider นอกจากนี้ก็อาจเป็นเพราะเกิดปัญหาทางด้านเทคนิคในขณะที่ระบบกำลังดำเนินการกับการจอง
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการ Connectivity Provider ของท่านสามารถช่วยตรวจสอบเรื่องนี้และแจ้งว่ามีอะไรผิดปกติ
ต้องทำอย่างไรหากไม่ได้รับอีเมลแจ้งเกี่ยวกับการจองด้วยเช่นกัน?
ท่านควรจะได้รับอีเมลแจ้งเมื่อใดก็ตามที่ไม่สามารถเพิ่มการจองลงในระบบของ Connectivity Provider ได้ หากท่านเห็นการจองในทว่าไม่เห็นในแอคเคาท์ Connectivity Provider และก็ไม่ได้รับอีเมลแจ้งเกี่ยวกับการจองดังกล่าว โปรดตรวจสอบกล่องอีเมลขาเข้าและโฟลเดอร์อีเมลขยะอีกครั้ง
หากยังคงไม่พบอีเมล โปรดดูข้อมูลติดต่อของที่พักท่านในระบบของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นข้อมูลที่อัปเดต ซึ่งทำได้โดย คลิก “แอคเคาท์” ที่มุมขวาบนและเลือก “การติดต่อ”
หากวิธีข้างต้นไม่ได้ผล โปรดติดต่อผู้ให้บริการ Connectivity Provider เพื่อขอรับความช่วยเหลือ เพราะผู้ให้บริการสามารถตรวจสอบว่าได้รับข้อมูลการจองจากฝั่งเราหรือไม่
การจัดการตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองผ่าน Connectivity Provider
การโหลดตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองเป็นจำนวนมากพอบนแพลตฟอร์มของเราสามารถช่วยให้ที่พักของท่านปรากฏในการค้นหาของลูกค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งสิ่งนี้สำคัญต่อการได้รับการจองมากขึ้น แนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับการโหลดราคาและจำนวนตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองคือให้ครอบคลุม 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อยหรือตามระยะเวลาสูงสุดที่ Connectivity Provider อนุญาต แม้ว่าท่านจะมีแผนอัปเดตข้อมูลในภายหลังก็ตาม
การอัปเดตตัวเลือกว่างสำหรับคู่ค้าที่ใช้ Connectivity Provider
หากท่านร่วมงานกับ Connectivity Provider ก็ควรใช้ซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการเสมอในการอัปเดตตัวเลือกว่างที่ที่พักท่านเปิดให้จองบนแพลตฟอร์มของเรา นั่นเป็นเพราะปกติแล้วข้อมูลจากผู้ให้บริการของท่านจะไปแทนที่การปรับเปลี่ยนใดก็ตามที่ทำกับตัวเลือกว่างผ่านเอกซ์ทราเน็ต Booking.com หรือปฏิทิน Pulse
ด้วยเหตุนี้เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าที่มีแนวโน้มจองจะเห็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ ท่านจึงควรปรับข้อมูลห้อง เรทแพลน ราคา และข้อกำหนดผ่านแพลตฟอร์ม Connectivity Provider หากต้องการปิดขายห้องใดห้องหนึ่งบน ก็ควรดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการเช่นกัน
การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้ตัวเลือกว่างโดยใช้โอกาสด้านตัวเลือกว่าง
กลยุทธ์ที่เหมาะสมด้านตัวเลือกว่างสามารถส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อผลการดำเนินงานของที่พักท่านบนแพลตฟอร์มของเราได้ ดังนั้นเพื่อช่วยให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุดจากตัวเลือกว่างที่เปิดให้จอง เราจึงมักเสนอคำแนะนำสำหรับท่านโดยเฉพาะที่นำไปดำเนินการต่อได้ (โดยเราเรียกสิ่งนี้ว่า “โอกาสทางธุรกิจ”) ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะมองเห็นที่พักของท่าน โอกาสเหล่านี้อิงจากข้อมูลต่าง ๆ เช่น มีวันที่ใดบ้างที่ห้องเปิดรับการจอง และช่วงวันที่สุดท้ายที่ท่านโหลดราคาและตัวเลือกว่างไว้
ท่านสามารถดูโอกาสทางธุรกิจได้จากทั้งเอกซ์ทราเน็ต Booking.com และแพลตฟอร์ม Connectivity Provider และเช่นเดียวกับการอัปเดตตัวเลือกว่าง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเปิดใช้โอกาสผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการแทนที่จะทำผ่านเอกซ์ทราเน็ต อ่านบทความนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้โอกาสทางธุรกิจเพื่อใช้ตัวเลือกว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
หากท่านต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าราคาและตัวเลือกว่างจะช่วยกระตุ้นธุรกิจของท่านได้อย่างไร หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองจะช่วยท่านฟื้นตัวจากช่วงที่มีการจองน้อยได้อย่างไร
โปรแกรม Connectivity Partner คืออะไร?
Booking.com ได้ร่วมธุรกิจกับผู้ให้บริการ Connectivity Provider หลายราย (โดยรวมถึงระบบ Channel manager และระบบจัดการที่พักหรือ PMS) เพื่อให้มั่นใจว่าที่พักคู่ค้าของเราสามารถเข้าถึงและสามารถเลือกผลิตภัณฑ์กับบริการที่ดีที่สุดได้
เราต้องการทำให้มั่นใจว่าการร่วมธุรกิจกับผู้ให้บริการ Connectivity Provider นั้นจะช่วยที่พักคู่ค้าอย่างต่อเนื่องในการทำให้ธุรกิจเติบโต ดังนั้นเพื่อรักษาคุณภาพการร่วมธุรกิจให้อยู่ในระดับสูง เราจึงได้สร้างระบบที่เรียกว่า “โปรแกรม Connectivity Partner” ขึ้นมา
โดยโปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ให้บริการ Connectivity Provider ดำเนินการบางอย่างซึ่งส่งผลดีต่อที่พักที่ร่วมงานด้วย และผู้ให้บริการเหล่านี้จะได้รับคะแนนจากโปรแกรมเป็นสิ่งตอบแทนเมื่อได้ดำเนินการแต่ละรายการเป็นที่เรียบร้อย
ผู้ให้บริการ Connectivity Provider จะได้รับคะแนนก็ต่อเมื่อให้การเชื่อมต่อที่มีคุณภาพ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็จะได้คะแนนด้วยเช่นกันหากช่วยเราทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือแบ่งปันความคิดเห็นบางอย่างกับเรา
โปรแกรมนี้แบ่งผู้ให้บริการออกเป็น 3 ระดับโดยขึ้นอยู่กับคะแนนที่ได้รับ แต่ละระดับสะท้อนถึงผลการดำเนินงานในภาพรวมของผู้ให้บริการ อีกทั้งช่วยให้ที่พักคู่ค้าทราบว่าผู้ให้บริการรายใดเหมาะสำหรับธุรกิจของตนเอง
ระดับต่าง ๆ ในโปรแกรม Connectivity Partner มีอะไรบ้าง?
ผู้ให้บริการ Connectivity Provider ที่เข้าร่วมโปรแกรมจะได้รับคะแนนซึ่งจะนำไปแปลงเป็นผลคะแนนโดยรวม โดยระดับจะขึ้นอยู่กับคะแนนที่ได้รับและแบ่งออกเป็นระดับมาตรฐาน ระดับสูง และระดับพรีเมียร์
เมื่อผู้ให้บริการเริ่มร่วมธุรกิจกับ Booking.com ก็จะเข้าร่วมโปรแกรม Connectivity Partner ในระดับมาตรฐาน โดยหากเลือกผู้ให้บริการในระดับนี้ก็จะสามารถอัปเดตราคาและจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จองบน Bookng.com ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงดึงข้อมูลการจองจากระบบของผู้ให้บริการได้เช่นกัน
ผู้ให้บริการที่อยู่ในระดับสูงจะช่วยให้ที่พักคู่ค้าสามารถอัปเดตราคาและจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จองบน Booking.com ตลอดจนดึงข้อมูลการจองได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างคือ ผู้ให้บริการระดับสูงมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากกว่า ดังนั้นจึงมีฟังก์ชั่นหลากหลายกว่าให้เลือกใช้งานในระบบ ทั้งนี้ คุณลักษณะแท้จริงของฟังก์ชั่นต่าง ๆ นี้ จะขึ้นอยู่กับทางผู้ให้บริการเอง
ผู้ให้บริการระดับพรีเมียร์คือผู้ให้บริการ Connectivity Provider ระดับสูงสุดและมีมูลค่ามากที่สุดของเรา ผู้ให้บริการเหล่านี้มีระบบที่ล้ำหน้าที่สุดพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายที่สุด โดยปกติแล้วคุณภาพการเชื่อมต่อก็มักจะดีกว่าผู้ให้บริการระดับสูงเช่นกัน
จะดูอย่างไรว่าผู้ให้บริการ Connectivity Provider ของฉันอยู่ในระดับใด?
หากต้องการทราบว่าผู้ให้บริการ Connectivity Provider ของท่านอยู่ในระดับใดของโปรแกรม Connectivity Partner โปรดเข้าสู่ระบบเและคลิกที่ “แอคเคาท์” จากนั้นเลือก “Connectivity Provider”
เมื่อเข้าไปยังหน้าดังกล่าวแล้ว ท่านจะเห็นรายชื่อผู้ให้บริการ Connectivity Provider ที่เข้าร่วมโปรแกรม Connectivity Partner ตลอดจนระดับ คะแนนคุณภาพการเชื่อมต่อ และลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ รวมถึงโอกาสที่จะเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการจะรับคะแนนจากโปรแกรมได้อย่างไร?
ผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อที่เข้าร่วมโปรแกรม Connectivity Partner สามารถรับคะแนนจากหัวข้อต่าง ๆ ต่อไปนี้:
- มูลค่าทางธุรกิจ คะแนนนี้สะท้อนว่าผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อช่วยสร้างธุรกิจมากน้อยเพียงใด ตลอดจนมีขั้นตอนเริ่มต้นใช้งานที่มีคุณภาพให้กับที่พักเพียงใด
- ผลการดำเนินงานของที่พัก คะแนนนี้สะท้อนว่าผู้ให้บริการมีส่วนช่วยพัฒนาผลการดำเนินงานของที่พักมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ เพิ่มอัตราผู้เข้าชมที่ทำการจอง หรือตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่ข้องกับผลการดำเนินงาน โดยในที่นี้รวมถึงการให้ข้อมูลหรือคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน
- ผลิตภัณฑ์และคุณภาพ ผู้ให้บริการจะได้รับคะแนนเมื่อใช้ API บางอย่างของ Booking.com ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลจัดการที่พักทางออนไลน์
- การมีปฏิสัมพันธ์ เมื่อผู้ให้บริการแบ่งปันความคิดเห็นกับเราก็จะได้รับคะแนน ซึ่งสามารถทำได้โดยเข้าร่วมการสัมภาษณ์เพื่อทำการวิจัย หรือร่วมทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
- การโหลดตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองเป็นจำนวนมากพอบนแพลตฟอร์มของเราสามารถช่วยให้ที่พักของท่านปรากฏในการค้นหาของลูกค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งสิ่งนี้สำคัญต่อการได้รับการจองมากขึ้น แนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับการโหลดราคาและจำนวนตัวเลือกว่างที่เปิดให้จองคือให้ครอบคลุม 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อยหรือตามระยะเวลาสูงสุดที่ Connectivity Provider อนุญาต แม้ว่าท่านจะมีแผนอัปเดตข้อมูลในภายหลังก็ตาม
Booking.com ได้ร่วมธุรกิจกับผู้ให้บริการ Connectivity Provider หลายราย (โดยรวมถึงระบบ Channel manager และระบบจัดการที่พักหรือ PMS) เพื่อให้มั่นใจว่าที่พักคู่ค้าของเราสามารถเข้าถึงและสามารถเลือกผลิตภัณฑ์กับบริการที่ดีที่สุดได้
เราต้องการทำให้มั่นใจว่าการร่วมธุรกิจกับผู้ให้บริการ Connectivity Provider นั้นจะช่วยที่พักคู่ค้าอย่างต่อเนื่องในการทำให้ธุรกิจเติบโต ดังนั้นเพื่อรักษาคุณภาพการร่วมธุรกิจให้อยู่ในระดับสูง เราจึงได้สร้างระบบที่เรียกว่า “โปรแกรม Connectivity Partner” ขึ้นมา
โดยโปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ให้บริการ Connectivity Provider ดำเนินการบางอย่างซึ่งส่งผลดีต่อที่พักที่ร่วมงานด้วย และผู้ให้บริการเหล่านี้จะได้รับคะแนนจากโปรแกรมเป็นสิ่งตอบแทนเมื่อได้ดำเนินการแต่ละรายการเป็นที่เรียบร้อย ผู้ให้บริการ Connectivity Provider จะได้รับคะแนนก็ต่อเมื่อให้การเชื่อมต่อที่มีคุณภาพ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็จะได้คะแนนด้วยเช่นกันหากช่วยเราทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือแบ่งปันความคิดเห็นบางอย่างกับเรา
อ่านเพิ่มเติม แอบดูดของลับขณะหลับ 18+ หนังตลก Jokergame pgslot สล็อต Slotxosuperslot,JOKER SLOT ONLINE,บาคาร่า,UFABET,SLOT2PLAY,bearbaccarat,slotreview,betufacasino,zlotxo,xhamsterthai,fourslot,termgameonline,ufa9988,ufabett,serviceufa UFABETแทงบอลสล็อตSlotxojokerjoker gamejoker slotjoker gamingบาคาร่าบาคาร่าออนไลน์
อัพเดทล่าสุด : 7 พฤษภาคม 2021
